Raya and the Last Dragon ผลงานการสร้างภาพยนตร์อะนิเมชั่นชิ้นโบว์แดงจากดิสนีย์ ผ่าน Disney plus ที่การันตีว่าไม่ดูไม่ได้ เพราะได้รับกระแสตอบรับที่ร้อนแรงจากคนดูภาพยนตร์สายอะนิเมชั่นทั่วโลก เริ่มจากข่าวที่น่ายินดี อย่างการสร้าง Story ให้ รายา เป็นเจ้าหญิงที่มาจากประเทศในแถบเอเชียนั่นเอง โดยเรื่องราวเริ่มต้นจาก คูมันตรา ดินแดนที่รวมของ 5 ชนเผ่า คือ เผ่าเขี้ยว เผ่าหาง เผ่ากรงเล็บ เผ่าสันหลัง และ เผ่าหัวใจ ตามอวัยวะต่าง ๆ ของมังกร โดยทั้ง 5 เผ่าถูกเชื่อมด้วยสายน้ำและปกปักษ์โดยมังกร ซึ่งดินแดนคูมันตรา เคยอยู่กันด้วยความสงบสุข จนกระทั่งอสูรร้ายนามว่า ดรุณ ที่เข้ามาทำลายทุกคน และสาปให้กลายเป็นหิน ก่อนจะแยกให้คูมันตราแตกเป็นเสี่ยง จนมังกรที่ปกป้องดินแดนต่างพากันเสียชีวิตลง ทิ้งไว้เพียงหินมณีมังกรแหล่งรวมพลังมังกรทั้ง 4 ที่ตกอยู่กับมังกรตัวสุดท้อง ที่หายสาปสูญไปกว่า 500 ปี อย่าง ชิซู ต่อมาหินมณีได้ตกเป็นของราชันเผ่าชื่อราชา บิดาของรายา ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะรวมชนเผ่าทั้งห้าให้กลายมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง แต่ภายหลังหินมณีมังกรนี้ เกิดแตกออก จากการหักหลังของนัมมาอารี เจ้าหญิงเผ่าเขี้ยว ที่ต้องการปลุกดรุณอสูรร้ายออกมาทำลาย ทุกคน ให้กลายเป็นหิน รายาพร้อมตุ๊ก ตุ๊ก สัตว์เลี้ยงจึงต้องออกเดินทาง ตามหามังกรตัวสุดท้าย เพื่อรวบรวมหินมณีอีกครั้ง
ตัวละคร Raya and the Last Dragon
ถึงแม้ในภาพยนตร์จะดำเนินเรื่องหลักด้วยสาวน้อย รายา เจ้าหญิงสุดมั่น ที่ด้วยคาเแรคเตอร์ที่วางไว้ รายาก็มีความน่าสนใจในตัวเองมากอยู่แล้ว แต่ทางทีมงานกับสร้างตัวละครทุกตัวให้มีมิติน่าติดตามได้อย่างดี โดยเฉพาะเจ้าตุ๊ก ตุ๊ก เพื่อนสนิทสุดเฟี๊ยวที่คอยสร้างสีสันให้เรื่อง หรือเด็กน้อยชื่อ น้อยและ บุญ รวมถึงกลุ่มเด็ก ๆ ที่จะมาคอยช่วยให้รายาทำภารกิจได้ รวมไปถึงตัวร้ายอย่างนัมมาอารี และที่ขาดไม่ได้เลย คือ มังกรตัวสุดท้ายอย่างซูชิ ที่ทำออกมาได้น่ารัก น่าหยิกทีเดียว
วิเคราะห์Raya and the Last Dragon
Raya and the Last Dragon นอกจากจะสร้างตัวเอกให้มาจากเอเชียแล้ว ยังสอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อของชาวเอเชียไว้อย่างชัดเจน ซึ่งในเรื่องนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นมุมมองที่ช่าวต่างชาติ มองคนเอเชียมากขึ้น แอบกระซิบว่ามีคนไทย เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ชิ้นนี้ด้วย ซึ่งใครที่ได้ไปดูต่าางก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไม่ผิดหวังเลย ถึงแม้ว่าหลัง ๆ นี้ ตีมการสร้างการ์ตูนอะนิเมชั่น ของดิสนีย์ อย่างโฟรเซ็นและโมอานา จะเน้นตัวเอกที่เป็นผู้หญิง ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังมีความกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายมี เพื่อเป็นการขับเคลื่อนสิทธิของความเป็นผู้หญิงมากขึ้น รวมไปถึงโครงเรื่องของอะนิเมชั่น ที่แฟน ๆ คงพอจะเดาทางกันได้แล้ว แต่หนังแต่ละเรื่อง ก็ยังคงมีเสน่ห์ ที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับRaya and the Last Dragon ที่การวางโครงเรื่องอย่างชาญฉลาด ผ่านการสะท้อนประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเอเชียอย่างลงตัว ช่วยให้หนังเรื่องนี้ ทั้งโดดเด่นและแตกต่าง จากหนังเรื่องอื่น ๆ เพราะการันตีได้ว่าคุณจะได้หัวเราะ ร้องไห้ และสนุกสนานไปกับตัวละครรายา ที่แสนจะน่ารัก อีกความน่าสนใจหนึ่งของหนังเรื่องRaya and the Last Dragon ที่ผู้กำกับพยายามปรุงรส ความหลากหลาย ของวัฒนธรรมเอเชีย แบบให้มีกลิ่นอาย ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ โดยสามารถจัดสรร ได้อย่างพอดี ไม่มากไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่มีความหลากหลาย ตามพื้นถิ่น หรือการแต่งกาย แม้แต่สถานที่ ที่รวมเอาวัฒนธรรมความเป็น ไทย บาหลี และ ศิลปะแบบขอมไว้อย่างเข้ากั๊น เข้ากัน เรียกว่าตอนนี้Raya and the Last Dragon กลายเป็นฮีโร่คนใหม่ ขวัญใจเด็ก ๆ ไปแล้ว ใครที่ยังไม่เคยดู Disney plus ทั้งพากย์ไทย พากย์อังกฤษ ขอบอกว่าพลาดไม่ได้จริง ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://plus2ch.com/หนังดิสนีย์พลัส/
เครดิตภาพ
https://google.com/
